หลายครั้งที่เราต้องการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศด้วยวิถีท่องเที่ยวของมนุษย์เงินเดือน จะออกเดินทางท่องเที่ยวไปที่ไหน เที่ยวไทยหรือเที่ยวต่างประเทศ มักจะเน้น การท่องเที่ยวแบบประหยัด ถึงจะต้องประหยัด แต่ก็ไม่อาจจะขวางกั้นไม่ให้มนุษย์เงินเดือนงดการออกเที่ยวได้ วันนี้จึงมีเทคนิคเที่ยวแบบประหยัด ฉบับมนุษย์เงินเดือน มาฝากกันค่ะ           ต้องตั้งงบที่จะใช้ก่อนโดยอาจจะอ้างอิงจากงบที่หลายท่านได้แชร์ประสบการณ์ไปยังสถานที่ที่เราอยากไปพอดี แล้วตามรอย เมื่อวางแผนและได้งบอ้างอิงแล้วก็เริ่มวางแผนการท่องเที่ยวทริปนี้ของคุณ โดยเริ่มจากสถานที่ท่องเที่ยว ถ้าอยากเที่ยวแบบประหยัด แนะนำให้เที่ยวสถานที่ที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น เที่ยววัด ชมศิลปะวัฒนธรรมบ้านเมืองของเขา หรือจะเลือกเที่ยวทะเล เล่นน้ำทะเลสวยใส หรือจะเลือกเที่ยวภูเขาตามอุทยานแห่งชาติ นี่เป็นเพียงบางส่วนของทางเลือกสำหรับคนที่อยากเที่ยวแบบประหยัด ลองวางแผนให้ดีก่อนเที่ยวจะได้เที่ยวแบบงบไม่บานปลายกันนะคะ           และแน่นอน “โปรโมชั่น” การเที่ยวด้วยการจองตั๋วเครื่องบินแบบโปรโมชั่น จากนั้นค่อยวางแผนเที่ยวก็มี เริ่มเที่ยวแบบประหยัดจากการจอง ตั๋วโปรโมชั่น จะบินสายไหนยังไงก็เลือกให้ดี การจองตั๋วโปรโมชั่น ส่วนมากจะไม่ค่อยมีให้บริการในช่วงวันหยุดยาวหรือช่วงเทศกาล แถมต้องลาล่วงหน้าเป็นเดือน หรือเป็นปี            การออกเดินทางท่องเที่ยวแบบมีเพื่อนร่วมทริปก็เป็นอีกนึงตัวเลือกเน้นความประหยัด ไปเที่ยวเป็นสองคน หรือเป็นหมู่คณะ ถึงแม้จะดูว่าไปเที่ยวหลายคนอาจจะยุ่งยาก แต่มีคนช่วยหารค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าเที่ยวคนเดียว          แต่มีอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณไม่ควรมองข้าม สำหรับการจองที่พัก ถ้าคุณเน้นจองห้องพักราคาถูก แต่ทำเลไม่สะดวกสบาย ห่างไกลที่กินที่เที่ยว ทำให้ต้องขับรถหรือต้องเดินทางทุกครั้งที่ออกจากที่พัก จะเกิดเป็นค่าใช้จ่ายของทริปนี้เพิ่มขึ้นมาทันที ควรเลือกห้องพักที่ไม่ไกลจากที่กินที่เที่ยว ใกล้ตลาด เลือกซื้ออาหารกินได้ มีของกินของใช้ราคาถูกให้ช้อป ยิ่งถ้าใกล้แหล่งช้อปปิ้งที่เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวด้วย ก็จะได้ทั้งความสะดวกสบายและประหยัดด้วยไปในตัว          …

หลายครั้งที่การไปเที่ยวต่างประเทศ ต้องมีปัจจัยด้านภาษามาเกี่ยวข้องจนพลาดโอกาสที่จะได้เดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ เปิดหูเปิดตาให้กับโลกกว้าง วันนี้เราเลยอยากมาบอกเทคนิคการท่องเที่ยว โดยไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องภาษา เพื่อเสริมกำลังใจคนอยากเที่ยวต่างประเทศคนเดียว เริ่มตั้งแต่การวางแผนเที่ยว การเดินทาง การจองตั๋วต่างๆ เรียนรู้ทริคเล็กๆ สำหรับเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเที่ยวต่างประเทศคนเดียว (ครั้งแรก) โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมตัวเลย             เริ่มจากเลือกประเทศที่จะไป โดยพิจารณาจากความชอบของตนเอง การเลือกประเทศได้ก่อนจะช่วยให้การวางแผนการเดินทางเป็นระบบมากขึ้น เลือกประเทศใกล้ ๆ ก่อน หาไฟล์ตบินที่ไม่ต้องต่อเครื่อง เลือกประเทศฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย ลดความยุ่งยากในการดำเนินเรื่องทำวีซ่า ต่อวีซ่าที่ต้องอิงวันหมดอายุด้วย และต้องเช็กสภาพอากาศของประเทศที่จะไปก่อนเสมอ ซึ่งต้องไม่พลาดในส่วนของข้อมูลรีวิวการเดินทางจะช่วยให้เห็นภาพของสถานที่คร่าวๆ ของประเทศที่กำลังจะไป เข้าใจเส้นทางการคมนาคมของที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง และจัดลำดับสถานที่ท่องเที่ยวตามระยะห่างของแต่ละสถานที่ เช็กการเดินทางออกจากสนามบินไปยังที่พัก บางประเทศมีบัตรโดยสารในประเทศ หรือหาซิมการ์ดที่ใช้ได้ในต่างประเทศ เป็นต้น             เมื่อเลือกประเทศที่จะไปท่องเที่ยวแล้ว ต่อมาก็ต้องมองหาตั๋วเครื่องบินกันต่อ ก่อนจองต้องไปทำพาสปอร์ตกันก่อน หลังได้พาสปอร์ตแล้วก็จองตั๋วเครื่องบินกันเลย วิธีการที่ง่ายที่สุดในการจองตั๋วเครื่องบินคือจองตั๋วออนไลน์และตัดผ่านบัตร อาจจะจองผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยวจะมีตัวเลือกให้เปรียบเทียบเยอะ แล้วจะได้ตั๋วเครื่องบินในราคาที่ถูก ตอนซื้อให้ดูรายละเอียดตั๋ว ให้ครบถ้วนว่าจองถูกต้องแล้ว และแน่นอนว่าการจองตั๋วไป – กลับทีเดียวเลย ช่วยให้มีโอกาสเดินผ่าน ตม.ได้ ดีกว่าซื้อแค่ตั๋วเที่ยวเดียวก่อนออกเดินทางให้ตรวจสอบสัมภาระที่จะนำไปให้ดี ถ้ามีกระเป๋าต้องโหลดให้ชั่งน้ำหนักกระเป๋าไม่ให้เกินจากที่กำหนด และกระเป๋าขึ้นเครื่องส่วนใหญ่จำกัดเพียงคนละ 1 ใบเท่านั้น             สิ่งที่สำคัญมากคือ เงิน การแลกเงินสดติดตัวไปจำนวนหนึ่ง และพกบัตรเครดิตไปด้วย (ถ้ามี) ต้องจัดเตรียมเอกสารที่ต้องยื่นที่…

            ปัจจุบันไทยได้ผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวัน ตอนนี้เราเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกตินอกบ้านได้แล้ว ในรูปแบบ New Normal รูปแบบการใช้ชีวิตและแนวโน้มการท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปทั้งในภาคธุรกิจอย่างผู้ให้บริการการท่องเที่ยวอย่างสายการบินหรือโรงแรมมีการปรับปรุงการให้บริการโดยมุ่งเน้นด้านสุขภาพมากขึ้น และในส่วนของนักท่องเที่ยวเอง ปัจจัยในการจัดทริปเที่ยวก็จะเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน ทิศทางการท่องเที่ยวต่างประเทศในวันที่นักท่องเที่ยวเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวแบบใหม่ อีกทั้งการปรับตัวทั้งทางภาครัฐและนักท่องเที่ยว ส่วนภาครัฐอาจดำเนินการในส่งของการตรวจสุขภาพก่อนเดินทางของนักท่องเที่ยว ภายใต้เงื่อนไข FTT (Fit to Traveling) นอกจากนี้แล้วนักท่องเที่ยวต้องทำการบ้านมากขึ้น ทั้งในเรื่องสถานที่และการเดินทางที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมากขึ้น             ในอนาคตอาจมีแนวโน้มการปรับตัวทั้งทางภาครัฐและนักท่องเที่ยว โดยในส่วนของภาครัฐอาจมีการทำหนังสือเดินทางเกี่ยวกับสุขภาพโดยเฉพาะ (Heath digital passport) เพื่อตรวจสอบสุขภาพก่อนการเดินทาง ภายใต้แนวคิด FTT หรือ Fit to Traveling ซึ่งนักท่องเที่ยวเองต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง นอกจากนี้การท่องเที่ยวต่างประเทศ ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวต้องทำการบ้านมากขึ้น ทั้งในเรื่องสถานที่และการเดินทางที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมากขึ้น โดยในอนาคตสิ่งนักท่องเที่ยวจะคำนึงถึงก่อนออกเดินทางไปต่างประเทศมีดังนี้ นักท่องเที่ยวจะเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและที่พัก จากความสะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรคเป็นลำดับแรก สถานที่มีชื่อเสียง ถึงแม้จะต้องเผชิญกับเพื่อนนักเดินทางจำนวนมากก็ตาม แต่ในอนาคตสถานที่เหล่านี้อาจไม่อยู่ในตัวเลือกของนักเที่ยวอีกต่อไป การหลีกเลี่ยงเพื่อเผชิญกับผู้คนจำนวนมาก เป็นความเคยชินจากการรักษาระยะห่างในสังคม ซึ่งอาจเกิดกับการท่องเที่ยวในอนาคต เมื่อการรักษาระยะห่างกลายเป็นเรื่องที่จำเป็น สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็อาจไม่จะนิยมอีกต่อไป ส่วนการท่องเที่ยวแบบสำรวจธรรมชาติอย่างเช่น การเดินป่า ปีนเขา การดำนำลึก จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้เป็นการท่องเที่ยวที่มีผู้คนจำนวนไม่มาก ทำให้ความเสี่ยงด้านโรคภัยไข้เจ็บจะลดน้อยตามไปด้วย การเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์ลดน้อยลง การท่องเที่ยวด้วยตัวเองมีมากขึ้น หรือหากเที่ยวเป็นกลุ่มเพื่อนก็จำกัดจำนวนให้น้อยลง เหลือแค่เพียงคนใกล้ตัวเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค แต่ก็ยังมีข้อระวังที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนออกเที่ยวต่างประเทศ เริ่มตั้งแต่การวางแผนเที่ยวการขอวีซ่าในแต่ละประเทศ, เครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้ในการเปิด Roaming, การเตรียมพร้อมหากพาสปอร์ตหาย             การท่องเที่ยวต่างประเทศจะเปลี่ยนจากการเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะที่แออัด มาเป็นการเช่ารถยนต์แทน…

            การเที่ยวต่างประเทศนั้น หลายครั้งที่เราจะปล่อยตัว ปล่อยใจไปกับการกินอาหารรสเลิศอาหารท้องถิ่นต่างประเทศ ด้วยความอดใจไม่ไหวก็จัดเต็มแบบลืมตัวอยู่บ่อยๆ พอกลับมาประเทศไทยก็ต้องตกใจกับน้ำหนักที่พุ่งทะยานขึ้น ด้วยวัยที่ลดลำบาก ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายจนต้องมานั่งเครียด วันนี้เรามีเทคนิคดีดีมาแนะนำในช่วงเที่ยวต่างประเทศ เที่ยวยังไงไม่ให้อ้วน ยั้งตัวเองยังไงไม่ให้กินแบบจัดเต็ม             เริ่มจากแพลนเที่ยวที่จัดให้เดินเล่น เพลิดเพลินกับการชมธรรมชาติ ดูถนนหนทาง รถรา บ้านช่องประเทศเขาบ้าง หรือจัดแพลนให้เดินเยอะขึ้นสักหน่อย เลือกจะเดินจากสถานที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่ง แทนการนั่งรถราง ,รถแท็กซี่ หรือรถไฟฟ้า ถ้าหากไปเที่ยวทะเล ,เที่ยวเกาะ หรือภูเขา ก็ไปว่ายน้ำ สัมผัสกับทะเล หรือน้ำตกสักหน่อยอย่างน้อยก็เผาพลาญแคลอรี่ออกบ้างในระหว่างเที่ยวต่างแดน ในระหว่างวันที่ออกเดินทางก็ดื่มน้ำสะอาดเยอะหน่อยดีต่อสุขภาพ แนะนำให้พักขวดน้ำเปล่าติดตัวเอาไว้จิบแก้กระหายในระหว่างวัน บางประเทศน้ำเปล่าหายาก หรืออาจมีราคาแพง พกไว้เข้าร้านอาหารก็ไม่ว่ากัน ไม่อ้วนแถมประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย             เที่ยวทั้งทีต้องหาอาหารอร่อยทาน เรื่องนี้เราเข้าใจมากๆ ว่าของอร่อยในต่างแดนระหว่างวันที่เดินเที่ยวเหนื่อยๆ จะเยียวยาทุกอย่าง ปากก็บอกว่าอ้วนแล้ว แต่ก็อยากรู้อยากลองรสชาติอาหารประจำถิ่นเขา ทำให้เราต้องสะสมไขมันเพิ่ม เราแนะนำให้กินแต่พอประมาณ หรือชิมพอให้รู้ว่าอร่อย แถมประหยัดเงินไปซื้อของใช้กลับบ้านอีกด้วย และแน่นอนว่าหลายคนอาจจะเห็นแก่ของราคาประหยัด หาง่ายยามหิวอย่างอาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งเป็นกับดักอาหารที่มีส่วนของไขมันและความอ้วนสะสม แนะนำให้หลีกเลี่ยงนะคะ โดยอาจจะพกอาหารจากเมืองไทยไปกินเองพวกข้าวต้มซอง อาหารอุ่นในไมโครเวฟแล้วทานได้เลย แต่ต้องดูโภชนาการดีๆ ก่อนนำไปอุ่นทานเพราะหากเลือกไปผิด โซเดียมเยอะเกิน น้ำตาลมากไป หรือสารอาหารไม่ครบ ก็ไม่ได้ดีไปกว่าอาหารจังก์ฟู้ดเลยค่ะ  หากจะกินระหว่างวันแนะนำให้พกเป็นขนมคลีนติดตัวไว้ตอนไปเที่ยวแต่ละครั้ง เช่นกราโนล่า…

                ปัจจุบันการเที่ยวต่างประเทศไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไปเพราะมีโปรโมชั่นกรุ๊ปทัวร์หลากหลายบริษัทที่ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนเพียงค้นหาทางเว็บไซต์ ไม่ว่าจะไปแบบคนเดียว หรือไปแบบแก๊งเพื่อน หรือไปแบบครอบครัว ก็ล้วนแต่มีบริการให้ แต่มีน้อยคนที่จะทราบว่าการไปเที่ยวต่างประเทศบางครั้งเราอาจจะวางแผนทัวร์ได้ด้วยตัวเอง วันนี้เราเอาประโยขน์ที่ได้จากการไปเที่ยวต่างประเทศเองโดยไม่ง้อทัวร์มาฝากกันค่ะ                 ขั้นตอนที่เป็นประโยชน์ขั้นตอนแรกเลย ทำให้นักเดินทางรู้จักวางแผน กล้าที่จะไปพบเจอสิ่งใหม่ๆ ในโลกกว้าง แน่นอนว่าเที่ยวกับทัวร์เราจะไม่ได้รับสกิลนี้แน่นอน ไม่ว่าจะต้องไปไหนมาไหนกับผู้คนหมู่มาก ต้องรอ ต้องเที่ยวแบบชะโงกทัวร์ ไปแบบไม่มีแผนในหัว ไม่กล้าทำสิ่งอื่นนอกเหนือจากแผนของทัวร์ที่ไป ถ้าได้เที่ยวเองเราจะได้รับสกิลนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการเรื่องเวลา ตารางเที่ยวแต่ละเมือง และเมื่อเจอปัญหาก็จะทำให้เราจดจำรายละเอียดปัญหา หาวิธีแก้ และได้เรื่องเล่าประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าจดจำอีกด้วย                 ได้เลือกไปในสถานที่ที่ตัวเองชอบ เปิดตาเปิดใจไปยังสถานที่สวยๆ ได้ไปกินของอร่อยเจ้าเด็ดที่อร่อยขึ้นชื่อตามตรอกซอยโดยไม่จำกัดเวลา ได้อิ่มเอิ่มใจกับบรรยากาศไม่ว่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น หรือไฮท์ซีซั่น มีอิสระเรื่องเวลาสร้างความทรงจำดีดีแบบไม่เร่งรีบ                 สามารถบริหารการเดินทางด้วยงบที่มี ค่ากิน ค่าเที่ยว ค่าที่พัก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับช่วงเวลาท่องเที่ยว แต่ต้องบริหารให้พอกับงบที่ตั้งไว้นั้น ปัจจุบันเราสามารถบริหารงบได้โดยใช้บริการผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ ซึ่งเหมาะกับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่เข้าถึงเทคโนโลยี ให้เราได้จองทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องเที่ยวง่ายๆ ผ่านแอพออนไลน์จองได้ทั้งตั๋วเครื่องบินราคาถูกและที่พักราคาประหยัดทั่วโลกที่สำคัญคือ การใช้งานง่าย ตอบโจทย์คนชอบเที่ยวที่มีงบจำกัด เพราะจ่ายได้ในราคาที่เบา หากจองผ่านแอพพลิเคชั่นจะมีโค้ดส่วนลดให้ได้ใช้ทุกสัปดาห์ ซึ่งสามารถเช็กโปรโมชั่นได้                 ได้รับประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางเรียนรู้วัฒนธรรม ภาษา ธรรมเนียมปฏิบัติ และอาหารในท้องถิ่นประเทศสิ่งแวดล้อมใหม่ๆได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์นั้นได้อย่างเต็มที่ มีแรงบันดาลใจช่วยให้สกิลการสื่อสารด้านภาษาของคุณดีขึ้นดึงศักยภาพของตัวเองที่มีอยู่ออกมาเพื่อให้การไปเที่ยวครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและสนุก มันจะพิสูจน์ได้ว่า คุณไม่ได้ด้อยเรื่องภาษาเลยถ้าคุณไม่คิดที่จะเริ่ม ประสบการณ์ดีๆ ที่กำลังรอคุณอยู่ก็อาจไม่เกิดขึ้น ลองไปเที่ยวเองแบบไม่พึ่งทัวร์ดู รับรองว่าจะทำให้หลายๆท่านลืมทัวร์ต่างประเทศไปเลยก็ได้

                เที่ยวต่างประเทศอย่างไรให้ประหยัดงบ วันนี้เรารวบรวมทริคจากนักเดินทางที่เคยไปแบ็คแพ็คเที่ยวต่างประเทศ และแน่นอนว่าการเดินทางครั้งนี้งบไม่บานปลายใช้งบน้อย ประหยัดทำให้ไปได้หลายๆ ที่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดประสบการณ์ในโลกกว้าง โดยวางแผนการท่องเที่ยวอย่างฉลาด                 เริ่มจากข้อแรกนักเดินทางแบ็คแพ็คเกอร์ตัวจริงจะต้องเป็นผู้ที่ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นสายการบิน พร้อมแพลนในการเดินทางคร่าวๆ โดยเมื่อใดที่โปรโมชั่น และมีส่วนลดในเส้นทางก็สามารถซื้อได้ทันที โดยใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสายการบินต่างๆ ให้เราเจอตั๋วราคาคุ้มค่าแกการเดินทาง ประหยัดทั้งเวลาและเงินในกระเป๋า                 ข้อสองเรื่องของที่พัก หลายๆ ครั้งเราจะเห็นแบ็คแพ็กเกอร์ชาวต่างชาติส่วนมากที่เดินทางในประเทศไทย จะเน้นเดินทางมาพักหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเน้นทั้งถูกและดี หรือที่พักฟรี ที่ทำให้ได้พบเพื่อนใหม่ระหว่างการเดินทาง หรือแม้แต่ส่งคำร้องขอไปพักฟรีกับเพื่อนสมาชิกท่านอื่น ถ้าโชคดีอาจพบเพื่อนชาวต่างชาติที่คุยแบบถูกคอพาเที่ยวก็เป็นได้                 ข้อสามเรื่องค่าใช้จ่ายในระหว่างการเดินทาง เมื่อเราเดินทางไปต่างประเทศ การใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับนักเดินทางแบบแบ็คแพ็คเกอร์หลายท่าน ดังนั้นนักเดินทางสายนี้มักจะใช้บริการขนส่งสาธารณะแบบเหมาจ่าย เพราะราคาเฉลี่ยต่อเที่ยวเดินทางมักจะถูกกว่ามาก แต่ทั้งนี้ต้องวางแผนการเดินทางให้ดี แต่ละประเทศก็มีโปรโมชั่นบัตรเหมาจ่ายค่าเดินทางที่แตกต่างกันไป (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นการเดินทางในช่วงเวลานั้นด้วย)                 ข้อสี่เรื่องอาหารการกิน ส่วนใหญ่แบ็คแพ็คเกอร์มันจะลองมาทานอาหารแบบคนท้องถิ่นในประเทศที่ไป หรือซื้อของจากร้านขายของแบบคนท้องถิ่นมาทำกินบ้างในบางมื้อ เพื่อประหยัดค่าอาหารจากร้านแพงๆ ตามแหล่งท่องเที่ยว แถมยังได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ จากการเดินทาง                 ข้อห้าเรื่องของน้ำดื่ม ติดขวดน้ำไปด้วยทุกที่ เพื่อประหยัดค่าน้ำดื่มหลายๆ ประเทศค่าน้ำดื่มสะอาดแพงมากเมื่อเทียบกับน้ำดื่มสะอาดในประเทศเราเอง นั่นเพราะว่าหลายประเทศมีระบบสาธารณูปโภคที่ดี น้ำประปาสะอาดดื่มได้จากก๊อก คนในประเทศจึงไม่จำเป็นต้องซื้อ จึงเป็นที่มาว่าทำไมน้ำดื่มประเทศเหล่านั้นถึงแพง นักเดินทางอย่างเราก็สามารถประหยัดได้ง่ายๆ แค่พกขวดน้ำเดิมไว้กรอกน้ำสาธารณะ หรือจากที่พักมาดับกระหายได้                 ข้อสุดท้ายเรื่องอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา แบ็คแพ็คเกอร์หรือนักเดินทางที่ดีจะต้องดูอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราให้เป็น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเงินประเทศที่จะไปก่อนล่วงหน้า ช่วงที่ค่าเงินถูกลง…

        อยากต่อวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับชาวต่างชาติ ต้องทำอย่างไรบ้างเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทยหากต้องการต่อวีซ่าในไทยต้องทำยังไง ซึ่งการให้เวลาเที่ยวในไทยเพียง 60 วัน อาจจะไม่พอ วันนี้เราเลยหาข้อมูลการต่อวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับชาวต่างชาติมาฝากค่ะ            นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ก่อนอื่นเลยต้องยื่นขอใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวจากสถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลใหญ่ไทยในประเทศที่ตนถือสัญชาติอยู่ หากเป็นการข้อวีซ่าท่องเที่ยวครั้งแรก จะมีอายุวีซ่าแค่ 3 เดือน และใช้เวลาอยู่ในประเทศไทยได้แค่ 60 วัน นับแต่ประทับตราขาเข้ากับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย เมื่อวีซ่าท่องเที่ยวใกล้จะหมดอายุ ชาวต่างชาติสามารถยื่นขอต่ออายุวีซ่าได้ 1 ครั้ง เป็นการขอต่อใบอนุญาตเพื่ออยู่ท่องเที่ยวต่อในประเทศไทย โดยที่วีซ่าเดิมยังไม่หมดอายุ มีหลักเกณฑ์การพิจารณาขอต่อวีซ่าประเภทท่องเที่ยว ดังนี้ เอกสารประกอบการยื่นขอต่อวีซ่าท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?         สามารถยื่นคำร้องขอต่อวีซ่า (ทุกประเภท) ได้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด         สำหรับผู้ที่มาพักอยู่ระยะยาวในไทย จะมีผลถึงวันที่ 30 ก.ย.2564 หรือ 1 ปีเต็ม โดยนักท่องเที่ยวที่ขอวีซ่าประเภทนี้ จะได้รับอนุญาตให้อยู่ในไทย 90 วัน และต่ออายุได้อีก 2 ครั้งครั้งละ 90 วัน รวมแล้วอยู่ในไทยได้สูงสุด 270 วัน ซึ่งเงื่อนไขการยื่นขอวีซ่าประเภทนี้มีดังนี้         หากนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่เกินกำหนดระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต…

        การเดินทางไปต่างประเทศ หลายท่านมีความจำเป็นที่จะต้องไปยังประเทศที่ต้องใช้วีซ่า โดยส่วนใหญ่จึงเป็นการยื่นขอวีซ่าแบบชั่วคราว โดยมีทั้งประเภทวีซ่า ท่องเที่ยว วีซ่าเยี่ยมเยียน วีซ่าธุรกิจ เราจะมาดูกันว่า วีซ่าประเภทเยี่ยมเยียนนั้นคืออะไร และมีการยื่นขอวีซ่าอย่างไร         วีซ่าเยี่ยมเยียน เป็นหนึ่งในประเภทของวีซ่าชั่วคราว มีไว้สำหรับการเดินทางไปยังประเทศที่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ไปเพื่อเยี่ยมเยียนญาติ คนใกล้ชิด หรือคนรู้จักที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเยี่ยมบุคคลในครอบครัวเสียมากกว่า ซึ่งจำเป็นต้องมีเอกสารเชิญจากผู้ที่พำนักในประเทศนั้น เพื่อให้ผู้เยี่ยนเยืยนสามารถเดินทางไปได้         เอกสารที่ต้องใช้ขอวีซ่าเยี่ยมเยือนมีดังต่อไปนี้ หากท่านมีเอกสารที่เป็นหลักฐานว่าท่านมีงานทำอยู่จะทำให้การพิจารณาวีซ่าง่ายขึ้น แต่ต้องมีหลักฐานประกอบดังนี้         ผู้เยี่ยมเยียนเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง จะต้องแสดงหลักฐาน ดังนี้ หลักฐานเกี่ยวกับการเยี่ยมเยียน         สำหรับผู้เดินทางที่ประสงค์จะไปเยี่ยมสมาชิกในครอบครัว เพื่อนหรือคนรู้จักที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ จะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าเพื่อการเยี่ยมเยียน ไม่ใช่ วีซ่าท่องเที่ยว ในกรณีที่ประเทศปลายทางต้องการเอกสารเพิ่มเติม หรือเอกสารอื่นใดที่ทางการร้องขอ ผู้เดินทางสามารถมาปรึกษาเราได้ ทางเรายินดีให้คำปรึกษา และรับทำเอกสารเหล่านั่น ดำเนินการให้วีซ่าผ่านได้ด้วยดีค่ะ

        นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยจะต้องขอรับการตรวจลงตราหรือขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยซึ่งตั้งอยู่ในประเทศที่ตนอาศัยอยู่ หรือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลประเทศที่คนต่างชาติดังกล่าวมีที่พักอาศัย โดยนักท่องเที่ยวบางสัญชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า ซึ่งมี 2 กลุ่มดังนี้ กลุ่มแรก ประเทศที่ได้รับ ยกเว้น การตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว และสามารถพักอยู่ในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน กลุ่มที่สอง ประเทศที่ได้ทำข้อตกลงให้ยกเว้นการตรวจลงตรากับประเทศไทย         นักท่องเที่ยวบางสัญชาติสามารถมาขอรับการตรวจลงตราที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทยบางแห่งที่กำหนดไว้ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยได้ (visa on arrival) โดยอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 15 วัน         หากเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาจากประเทศเขตติดโรคไข้เหลืองจะต้องแสดง “เอกสารระหว่างประเทศรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลือง” (International Health Certificate on Yellow Fever Vaccination) ในการยื่นคำร้องขอรับการตรวจลงตรา ณ สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ รวมทั้งจะต้องแสดงเอกสารดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้ คุณสมบัติโดยทั่วไปของผู้ที่จะยื่นขอวีซ่าเข้าไทยได้มีดังนี้        – ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ถูกต้องสมบูรณ์ และมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน        – มีหลักฐานแสดงว่าจะเดินทางออกจากประเทศไทยหลังจากสิ้นสุดการพำนักในไทย เช่น ตั๋วเครื่องบิน และมีวีซ่าหรือหลักฐานว่าสามารถเดินทางกลับประเทศที่มีถิ่นพำนัก หรือเดินทางต่อไปยังประเทศอื่นได้ (ในกรณีขอเดินทางผ่าน)        – ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เช่น…

         นักท่องเที่ยวเตรียมเฮเพราะหลายๆประเทศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มานานหลายปี ตอนนี้เปิดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้แล้วแต่เพิ่มเติมในส่วนของเงื่อนไขของโรคระบาดนี้ วันนี้เราจะมาบอกวิธีการเตรียมตัวไปต่างประเทศในช่วงโควิด-19 นี้กัน           แน่นอนว่าสิ่งแรกเลยที่ต้องรู้ คือประเทศไหนบ้างที่เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศแล้วบ้าง เมื่อเรามีประเทศในใจที่จะเดินทางไปแล้ว ก่อนอื่นควรตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขของประเทศนั้น ๆ ก่อนเดินทางโดยเฉพาะเรื่องเอกสาร มีกำหนดกักตัวหลังเดินทางเข้าประเทศหรือไม่ หรือต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กี่เข็ม ซึ่งการเที่ยวต่างประเทศวัคซีนที่ฉีดจะต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ข้อสำคัญคือเข้ารับการฉีดวัคซีน และถ้าจะไปต่างประเทศต่างๆ แบบไม่ต้องเสียเวลากักตัว ก็ควรต้องรับวัคซีนครบโดส และไม่ใช่แค่ครบโดสเท่านั้น ควรติดตามและไปฉีดกระตุ้นภูมิด้วย เพื่อให้ภูมิคุ้มกันยังอยู่ในร่างกายในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะในบางประเทศก็มีข้อกำหนดเกี่ยวกับวัคซีนกระตุ้นเข็มสามมาให้เห็นบ้างแล้ว จึงไม่ควรละเลยในส่วนนี้ได้           ในส่วนของการเตรียมเอกสาร โดยส่วนใหญ่เอกสารที่จำเป็นต้องมีคือ เอกสารยืนยันตัวตนของนักท่องเที่ยวเอง ไม่ว่าจะเป็นบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง (ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือนก่อนเดินทาง)และการต่ออายุพาสปอร์ตก็คือเปลี่ยนพาสปอร์ตเล่มใหม่ เลขพาสปอร์ตก็ใหม่ด้วย หากเราไปจองอะไรก็ตามที่มีการระบุเลขพาสปอร์ต และได้ใส่เลขเก่าไป จะต้องไปดำเนินแก้ไขเปลี่ยนให้ตรงกับเลขพาสปอร์ตเล่มปัจุบัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาขณะเดินทางได้ วีซ่า (VISAS) สำหรับบางประเทศที่ต้องทำวีซ่าก่อนเข้าประเทศนั้นๆ ใบรับรองผลการตรวจโควิดที่เป็นการตรวจแบบ RT –PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง พร้อมกับวัคซีนพาสปอร์ต ที่ระบุวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกยอมรับในบางประเทศ หรือบางประเทศระบุอนุญาตเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มเท่านั้น และแน่นอนที่สุดรวมถึงตั๋วเครื่องบินขาไป-กลับ เอกสารจองที่พัก โรงแรม หรือแผนการเที่ยวสำหรับยืนยันด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทาง และท้ายที่สุดแล้วการมีประกันสุขภาพระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ หรือแม้แต่ในประเทศตัวเองก็เป็นสิ่งจำเป็น…