อย่าให้การท่องเที่ยวต้องสะดุดเพราะอาการเจ็บป่วย ยิ่งช่วงนี้ใกล้สิ้นปี ทริปเที่ยวรออยู่เยอะมากนอกจากการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงก่อนออกเดินทางแล้ว เช็กวิธีป้องกันเเละบรรเทา พร้อมอาการอะไรบ้างที่นักท่องเที่ยวเสี่ยงเจอการดูแลร่างกายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวก็เป็นสิ่งสำคัญหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาจะได้แก้ไขได้ทันเพื่อลดปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ระหว่างเที่ยวครั้งนี้วันนี้เราเลยหาข้อมูลอาการป่วยที่สายเที่ยวมักเจอระหว่างทริปพร้อมวิธีดูแลป้องกัน ให้ทริปสนุกตลอดการท่องเที่ยว
เปิดทริปด้วยปัญหาสุขภาพที่มากับการเดินทาง เชื่อว่าหลายท่านอาจะเคยเจอกับปัญหาเมารถ เมาเรือกันอยู่ไม่น้อย แล้วเคยสงสัยกันไหมคะว่าทั้ง 2 อาการนี้เกิดจากอะไร โดยแพทย์ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าเกิดจากระบบประสาทการทรงตัวของเราทำงานไม่สมดุล และความสมดุลที่ว่ามาจากการได้รับการกระตุ้นจากการเดินทางมากเกินไปเช่น เรือเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา หรือการขับรถที่เส้นทางคดเคี้ยว หรือมีการเคลื่อนที่โคลงเคลงตลอดเวลา ส่งผลให้รู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เลยทีเดียว
ซึ่งปัญหานี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เรามักจะรู้ตัวเองกันดีอยู่แล้ว ส่วนใหญ่แก้ปัญหาโดยการกินยา แก้เมาเรือ เมารถ ยังมีวิธีการเตรียมความพร้อมที่สามารถทำเองได้ด้วย แต่หลายท่านอาจจะรู้วิธีบรรเทาอาการ เช่น ทานอาหารและพักย่อยสักครึ่งชั่วโมงก่อนเดินทาง หรือทานยาแก้เมาครึ่งชั่วโมงก่อนเดินทาง เพื่อให้ตัวยาดูดซึม เป็นต้น
และหากจะพูดถึงปัญหาสุขภาพที่คนชอบเที่ยวต่างประเทศต้องเจอคงหนีไม่พ้นอาการเจ็ตแล็ก (Jet Leg) หรืออาการผิดปกติเกี่ยวกับการนอนที่มีสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงเขตเวลากระทันหันยกตัวอย่างเช่น จากที่เคยนอนหลับตอน 8 โมงเช้าของไทย ต้องสลับมานอนเวลา 4 ทุ่มเวลาไทย เมื่อต้องเปลี่ยนเวลาอย่างเฉียบพลันจึงทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนนอนไม่หลับ นอนน้อย ผลกระทบต่อมาคือจะรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวนนั่นเอง บรรเทาด้วยการพยายามปรับตัวเข้ากับโซนเวลาที่ใหม่ และถึงแม้จะง่วงมากแค่ไหนก็ขอให้อดทน และไม่นอนหลับจนกว่าจะถึงเวลานอนในโซนเวลาใหม่ ทำตัวให้ชินกันโซนเวลาใหม่นั่นเอง
มั่นใจว่าในทุกการไปเที่ยว หากลองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเข้าดูโปรแกรมนับจำนวนก้าวเดิน เพื่อน ๆ จะต้องมีจำนวนเกิน 10,000 ก้าวอย่างแน่นอนหรือในบางคนอาจเกินนี้ไปด้วยซ้ำ จากจำนวนที่กล่าวไปก็ไม่เเปลกใจว่าทำไมเมื่อกลับมาที่พักถึงกับต้องเอาเท้าแช่น้ำอุ่น หรือหาที่แปะฝ่าเท้าแก้ปวดเมื่อมาใช้เพื่อเตรียมความพร้อมในการเที่ยวในวันต่อไปดังนั้นเราควรที่จะเตรียมพร้อมร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณข้อเท้า เพื่อไม่ให้การเดินในทริปนี้ไม่มีสะดุด อาจจะพกแผ่นเจลรองเท้าที่ช่วยลดแรงกระแทก หรือเลือกใช้รองเท้าที่เหมาะสมกับกิจกรรม แล้วยืดเส้นยืดสายเพิ่มความแข็งแรงให้เอ็นร้อยหวาย ลดอาการปวดส้นเท้า วิธีการวอร์มร่างกายก็ให้เลือกตามสภาพร่างกายของแต่ละท่านค่ะ หลายท่านอาจจะออกกำลังกายเพิ่มเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
อาการท้องเสียในระหว่างการท่องเที่ยว การได้ชิมอาหารที่หลากหลายคือความสุขของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คน ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีอาหารท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป แน่นอนว่ากรรมวิธีการปรุงหรือประกอบอาหารไม่เหมือนกันความสะอาดก็แตกต่างกัน หากเรากินอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่โอกาสที่จะท้องเสียอย่างเฉียบพลันก็เกิดขึ้นได้และหากปล่อยให้อาการเรื้อรังอาจถึงขึ้นขาดน้ำจนเสียชีวิตได้ ดังนั้นก่อนเลือกกินเมนูที่คุ้นชิน ควรดูในเรื่องของความสะอาดทั้งตัวภาชนะและวัตถุดิบให้ดีก่อน ป้องกันด้วยวิธีเลือกรับประทานอาหารจานร้อน หรืออาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ ดื่มน้ำสะอาด ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร เลี่ยงอาหารไม่สุก หรืออาหารที่ไม่เคยทาน และแน่นอนว่านอกจากท้องเสียแล้วยังมีเรื่องท้องอืด ท้องเฟ้อ ซึ่งวิธีแก้ส่วนใหญ่ที่หลายคนเลือกใช้ คือ ยาลดกรด ยาช่วยย่อย เป็นต้น แต่ก่อนที่จะไปพึ่งยา ขอให้เริ่มจากการปรับพฤติกรรมการกินการนอนจะช่วยได้ในระยะยาว เริ่มจากพยายามเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน ลดปริมาณการดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก พยายามขยับร่างกายเพื่อกำจัดแก็สออกไปจากลำไส้และกระเพาะหลังมื้ออาหาร
และอาการหรือโรคยอดฮิตก็หนีไม่ได้เลยคือ ภูมิแพ้ แน่นอนว่าเวลาเลือกสถานที่เที่ยวสักครั้งหลายคนมักจะเลือกพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกับที่ตัวเองต้องเจอในแต่ละวัน เช่น ชอบไปสัมผัสอากาศหนาวที่ต่างประเทศเมื่อสภาพอาการเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันแบบนี้อาจทำให้คนที่เป็นภูมิแพ้มีอาการกำเริบออกมาได้เพราะฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่าตัวเองไวต่อสิ่งกระตุ้น ต้องรู้จักป้องกันและพกยาติดตัวเอาไว้เสมอ
ในทุกการเดินทางสามารถเกิดปัญหาสุขภาพขึ้นได้โดยที่ไม่คาดคิด ก่อนที่จะออกเดินทาง อย่าลืมดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ ฟิตร่างกายให้พร้อมและหากรู้ว่าเรามีปัญหาสุขภาพ หรือโรคประจำตัวอย่าลืมพกยาประจำตัวไปด้วย เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง เเละเพื่อนร่วมทริป วันนี้ฝากไว้เพียงเท่านี้ค่ะ