วางแผนเที่ยวต่างประเทศให้สนุกทำอย่างไร
บทความอื่นๆ

วางแผนเที่ยวต่างประเทศให้สนุกทำอย่างไร

       เริ่มต้นด้วยการระดมสมองกับเพื่อนร่วมทริป ลิสต์ที่เที่ยวหรือเมืองที่อยากไป โดยเรียงลำดับความสำคัญตั้งแต่สถานที่ที่จะต้องไปให้ได้ ลงมาถึงสถานที่ถ้าไปไม่ทันจริง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องไป จากนั้น ให้เช็กข้อมูลของแต่ละสถานที่ แล้วประมาณเวลาที่ต้องใช้ รวมถึงค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ในการไปแต่ละที่ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้เลือกสถานที่ที่เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยวของกลุ่ม และอย่าลืมเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางระหว่างสถานที่ด้วย

       เมื่อได้แพลนเที่ยวคร่าว ๆ แล้ว ให้ใส่แพลนเหล่านั้นลงไปในชีท โดยระบุวัน เวลา สถานที่ กิจกรรม และวิธีการเดินทาง แล้วแชร์ให้เพื่อนร่วมทริปช่วยกันตัดสินใจ พร้อมปรับแก้ให้ลงตัว ถูกใจทุกคนในทริป ป้องกันการเกิดปัญหาในการเดินทางภายหลัง แนะนำให้เผื่อวันว่างสำหรับช้อปปิ้ง พักผ่อน หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ แบบสบาย ๆ ไม่ต้องเร่งรีบด้วย ลองคำนวณเงินที่ต้องใช้คร่าว ๆ ดู ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ และเตรียมเงินติดตัวเพิ่มเติม เผื่อไว้สำหรับช้อปปิ้งหรือกรณีฉุกเฉิน โดยก่อนเดินทาง ให้แลกเงินสกุลท้องถิ่นไปให้เพียงพอต่อความต้องการ หากมีบัตรเครดิตก็ให้เตรียมไว้สำหรับใช้ที่ต่างประเทศ

       สิ่งสำคัญที่สุดในการวางแผนเที่ยว คือการกำหนดวันและช่วงเวลาในการเดินทาง เพื่อที่จะได้พิจารณาสถานที่ที่เหมาะสมกับปัจจัยต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น ฤดูท่องเที่ยว สภาพอากาศ และสามารถกระจายสถานที่ท่องเที่ยวได้ครบถ้วนตามความต้องการ แนะนำให้เลือกช่วงเวลาที่มีวันหยุดต่อเนื่อง จะได้มีเวลาเที่ยวมากขึ้น และควรเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันด้วย เช่น เครื่องบินดีเลย์ ไฟลท์เลื่อน ลืมของ ฯลฯ ควรหาข้อมูลการเดินทางเพื่อวางแผนเที่ยวล่วงหน้า โดยเลือกวิธีการเดินทางที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุด เช็กราคา ตารางเวลา ตลอดจนวิธีการจองตั๋วให้เรียบร้อย และพยายามอย่าให้ตารางแน่นจนเกินไป เพราะในการเดินทางอาจจะเกิดความล่าช้าหรือไม่เป็นไปตามที่เราตั้งใจเอาไว้ก็ได้

       จัดกลุ่มสถานที่ที่อยู่ใกล้เคียงกัน แล้วเก็บลิสต์สถานที่บริเวณนั้นให้ครบก่อนจะเดินทางไปต่อยังที่อื่น เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้มากขึ้น แนะนำให้ศึกษาเส้นทางและวิธีการเดินทางล่วงหน้า จะได้รู้ว่าสถานที่ไหนอยู่ใกล้กันบ้าง และควรไปที่ไหนก่อนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินทางแบบวกไปวนมา และปักหมุดบนแผนที่กูเกิ้ลเมื่อเลือกได้แล้วว่าจะเดินทางไปที่ไหน ให้ปักหมุดสถานที่ที่เราต้องการไปลงบนแผนที่กูเกิ้ล เพื่อตรวจสอบที่ตั้งและดูภาพรวมของสถานที่ ตลอดจนวิเคราะห์ระยะทาง เพื่อที่จะได้สามารถวางแผนการเดินทางและการบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้ฟีเจอร์ “My Maps” ในการจัดกลุ่มสถานที่ แล้วแยกตามสีหรือหมวดหมู่เพื่อให้ดูง่ายขึ้นได้อีกด้วย

       แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อที่จะได้ตั๋วราคาถูก แต่ก่อนตัดสินใจจอง ควรเช็กราคาและเปรียบเทียบโปรโมชันจากหลาย ๆ สายการบินก่อน เพื่อให้ได้ราคาตั๋วที่คุ้มค่ามากที่สุด พร้อมตรวจสอบเงื่อนไขการจองว่าสามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกภายหลังได้หรือไม่ และที่สำคัญ เลือกจองกับเว็บจองตั๋วเครื่องบินที่น่าเชื่อถือ มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย

       เมื่อมีตั๋วเครื่องบินแล้วก็ต้องมีที่พัก! แนะนำให้เลือกประเภทที่พักที่เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยว เช่น โรงแรม โฮสเทล หรือเกสต์เฮาส์ หากอยู่ใกล้สถานีรถไฟจะดีมาก จะได้สะดวกต่อการเดินทาง โดยก่อนเลือกที่พัก ควรเปรียบเทียบราคา รีวิว และสิ่งอำนวยความสะดวกหลาย ๆ ที่เพื่อให้ได้ที่ที่ดีที่สุด และควรจองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะหากจะเดินทางในช่วงไฮซีซัน เพราะช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะเยอะและราคาที่พักอาจสูงเป็นพิเศษ

       ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่กำลังไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกำหนด ข้อบังคับ สิ่งของห้ามนำเข้า ตลอดจนวัฒนธรรมและธรรมเนียมปฏิบัติของสถานที่นั้น ๆและอย่าลืมเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น พาสปอร์ต วีซ่า ใบจองตั๋วเครื่องบิน และใบจองที่พักไปด้วยเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด ซื้อประกันการเดินทางเพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัย และคุ้มครองกรณีฉุกเฉิน โดยควรเลือกประกันที่เหมาะกับประเภทการท่องเที่ยว ระยะเวลา สถานที่ และความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ ก่อนซื้อ แนะนำให้เปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองจากหลาย ๆ บริษัท พร้อมตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์อย่างละเอียด แล้วจึงค่อยตัดสินใจ